ลุงพล ร่ำไห้ อยากบวชตลอดชีวิต

News

เป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่ชาวเน็ตต่างให้ความสนใจกันเป็นจำนวนมาก สำหรับเหตุการณ์ของน้องชมพู่หายตัวจากบ้านไป จนเจ้าหน้าที่ไปพบร่างของน้องชมพู่ที่บนเขา ทำให้ตอนนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังสืบสวนหาความจริงว่าใครเป็นผู้กระทำ ผิ ด

ขณะที่ลุงพลถูกตั้งเป็นผู้ต้องสงสัยว่าอาจเกี่ยวโยงกับน้องชมพู่หรือไม่นั้น

ภาพจาก ทุบโต๊ะข่าว

วันที่ 11 ก.ค. 63 ที่บ้านของนายไชย์พล วิภา ลุงน้องชมพู่ มีญาติเดินทางมาเยี่ยมจำนวนมาก เมื่อรถจอดที่หน้าบ้านตั้งแต่ช่วงเช้า ญาติลุงพลก็วิ่งเข้ากอดทันที โดยทั้ง 2 ฝ่ายต่างร้องไห้ออกมา จากนั้นได้มีการร่วมรับประทานอาหาร ซึ่งญาติลุงพลต่างทีสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส่

นายผ่อง วิภา พ่อลุงพล เปิดเผยว่า ตนเองเดินทางมาให้กำลังใจทั้งลูกชาย ลูกสะใภ้ ซึ่งครั้งก่อนลูกไปหาที่บ้าน แต่วันนี้ตนเองเดินทางมาเอง เนื่องจากพี่สาวลุงพลอยากให้พาครอบครัวมารวมตัวกัน ส่วนตัวติดตามข่าวเห็นว่าแม่ชมพู่สงสัยลุงพล ซึ่งลุงพลเป็นคน ใ จ ร้ อ น ก็เปิดออกตามหน้าสื่อ ส่วนตัวก็ยังไม่ได้คุยอะไรมาก่อนหน้านี้ เพราะตนเองก็ไม่ได้ใช้โทรศัพท์ ลูกชายเป็นคนไม่ได้ทำใคร เพียงจะเสียงดังบ้าง

ภาพจาก ทุบโต๊ะข่าว

หลังจากนี้ หากลุงพลถูกจับและไม่ได้กระทำความ ผิ ด ตนเองยืนยันจะประกันตัว แต่หากมีการทำ ผิ ด จริงก็ต้องปล่อยตามกระบวนการ ทั้งนี้ บางทีญาติพี่น้องก็คงต้องสงสัย หรือพูดถึงกัน ตนเองก็ขอให้ลูกชายเข้มแข็ง ซึ่งลูกชายเคยเปรยว่า จะบวชให้ชมพู่ บอกว่าจะบวชตลอดชีวิต

ตนเองบอกลูกว่าไม่ต้องขนาดนั้น บวชแค่บางช่วงพอ เพราะมีลูกมีเมียต้องดูแล ยืนยันหากบวชตลอดชีวิตตนเองไม่ยอม ยอมรับว่าห่วงลูกทุกคน ตอนนี้ที่ยังยิ้มได้เพราะยังมั่นใจว่าลูกชายไม่ใช่คนทำชมพู่แน่ ลูกเป็นคนดี

ภาพจาก ทุบโต๊ะข่าว

นางภา วิภา แม่ลุงพล เปิดเผยว่า ตนเองก็ดีใจที่เห็นคนมาให้กำลังใจลูกชาย ขอให้เรื่องนี้ผ่านพ้นไปโดยเร็ว ตนเองก็สบายใจ ยอมรับว่าก็มีร้องไห้บ้าง หากคิดเป็นห่วงลูก ยิ่งได้ยินว่าแม่ชมพู่สงสัยลุงพล ตนเองก็รู้สึกเหนื่อยขึ้นมาทันที ตนเองไม่ได้กังวลเพราะทำใจได้แล้ว อะไรจะเกิดมันต้องเกิด มั่นใจว่าลูกชายไม่ได้ ก่ อ เ ห ตุ

ภาพจาก ทุบโต๊ะข่าว

จากนั้นพ่อแม่ลุงพลได้เดินทางมากลับมาที่บ้านกกกอก เพื่อส่งลูกชาย ซึ่งได้เจอกับตาชาญ มีการพูดคุยกันตามปกติ ไม่ได้มีความขัดแย้งภายในครอบครัว

นายไชย์พล วิภา ลุงน้องชมพู่ เปิดเผยว่า วันนี้ยอมรับว่าอบอุ่นที่เดินทางมาทำบุญทั้งครอบครัว ครอบครัวก็ให้กำลังใจ ไม่ให้คิดมาก ถือเป็นกำลังใจที่สำคัญที่สุด ครอบครัวต้องช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ต้องมีความอบอุ่น ครอบครัวตนไม่ได้สงสัยตน เพราะรู้นิสัยตน และดีใจที่เชื่อมั่นว่าลูกหลานตัวเองไม่ได้มีนิสัยจะไปทำเด็กได้ ตนเองไม่เคยปรึกษาเรื่องพวกนี้กับพ่อแม่ เพราะกลัวท่านไม่สบายใจ ตนเองมาทำบุญวันนี้ก็ขอให้ความสุขกลับมาในครอบครัว สิ่งไม่ดี หายไป

ขอบคุณ ทุบโต๊ะข่าว , ข่าวไทย