เรียกได้ว่ายังคงติดตามกันอย่างต่อเนื่องสำหรับสถานการณ์ โ ค วิ ด ล่าสุด ซึ่งเป็นทหารจากประเทศอียิปต์ มีประวัติเดินทางเข้าไทย พักโรงแรมและมีการเดินห้างสรรพสินค้า ก่อนผลตรวจออกมาเป็นบวกในท้ายที่สุด
วันที่ 13 ก.ค. นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์ c๐vid (ศบค.) แถลงถึงส่วนผู้ที่อยู่ในสถานกักกันของรัฐ พบว่ามีผู้ติดเชื้ อเพิ่ม 3 ราย โดย 2 ราย เป็นคนไทย เดินทางกลับมาจาก ประเทศคูเวต บาร์เรน
และอีกคนเป็นทหารสัญชาติอียิปต์พบว่าเป็นลูกเรือที่เดินทางเข้าประเทศไทย โดยมีไทม์ไลน์การเดินทางก่อนตรวจพบเชื้ อดังนี้
วันที่ 6 ก.ค. ออกจากสนามบินในกรุงไคโรประเทศอียิปต์ มาที่สหรัฐอาหรับเอมิเรสต์
ในวันที่ 7 ก.ค. ออกจากสหรัฐอาหรับเอมิเรสต์ ไปปากีสถาน 8 ก.ค. ถึงสนามบินอู่ตะเภา เข้าพักในโรงแรมแห่งหนึ่งในอำเภอเมืองระยอง
วันที่ 9 ก.ค. ออกจากโรงแรมไปสนามบินอู่ตะเภาเพื่อบินไปทำภารกิจทางทหารที่เมืองเฉิงตู ประเทศจีน แล้วกลับมาในวันเดียวกัน
จากนั้น 10 ก.ค. เจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจคัดกรองทั้งคณะ 31 รายและ 11 ก.ค. คณะดังกล่าวเดินทางออกจากไทยกลับอียิปต์ โดยมีการส่งผลตรวจซ้ำ ปรากฎว่าผลตรวจออกมาในวันที่ 12 ก.ค.
น.พ.ทวีศิลป์ กล่าวด้วยว่า ต้องคุยกันมากในที่ประชุมศบค. แม้จะเป็นลูกเรือต่างชาติ ซึ่งการจัดที่พักให้นั้น มาตรการคุมเข้มยังมีข้อที่ต้องทบทวน ในการที่บินมาลงสนามบินอู่ตะเภา และพบว่า โรงแรมที่ระยองสัมผัสผู้พบเชื้ อ มาตรการสอบสวนโร คจะครอบคลุมโรงแรมนี้ทั้งหมด เพื่อให้การตรวจสอบเกิดขึ้นอย่างละเอียด และระหว่างสอบสวนโรคพบว่า ลูกเรือกลุ่มนี้ออกจากโรงแรมไปสถานที่บางแห่งในระยอง มีข้อมูลว่าเป็นห้างสรรพสินค้าในระยอง
อีกราย เป็นเด็กหญิง 9 ขวบ เดินทางมาจากภูมิภาคแอฟริกาพร้อมครอบครัว 5 คน (คณะทูต) โดยก่อนเดินทาง วันที่ 7 กรกฎาคมได้ไปตรวจหาเชื้ อแล้วแต่ไม่พบ เมื่อมาถึงไทย (10 ก.ค.) ผลตรวจพบเชื้อ สมาชิกที่มาด้วยกันเข้าพักที่คอนโดแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ ต่อมาส่งผู้ป่วย (เด็ก 9 ขวบ) ตรวจซ้ำพบป อ ดอักเส บ ล่าสุดเจ้าหน้าที่ได้เข้าทำการสอบสวนโร คในพื้นที่แล้ว