เรียกได้ว่าตอนนี้ขึ้นแท่นนางเอกขวัญใจแฟนละครไปแล้วกับเรื่องราวกระแสละครยอดเยี่ยมที่ผู้จัดมีการเปลี่ยนตัวนักแสดงตามบทบาทในเรื่องเพื่อความสมจริง จึงทำให้แฟนละครบางกลุ่มไ ม่เห็นด้วยเพราะชื่นชมในการแสดงของริชชี่เอง ซึ่งหลังจากได้เปิดใจไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วแฟนคลับต่างรักและให้
กำลังใจอย่างมาก
เมื่อวันที่ 28 ต.ค.ที่ผ่านมา โดยสาวริชชี่ได้เล่าในรายการตีสิบเดย์ โดยเล่าย้อนเรื่องราวประวัติของตนเองว่า เป็นลูกหลาน ของเผ่าลาหู่ หรือที่คนคุ้นกันว่า มูเซอ อาศัยอยู่บนเทือกเขาผ้าห่มปก ตะเข็บชายแดนไทย-เมียนมา อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ คุณยายเป็นชาวลาหู่ เป็นลูกสาวคนโตของปู่หมื่น ส่วนคุณตาเป็นคนจีนที่มาแต่งงานกับคุณยาย คุณแม่เลยเป็นลูกครึ่งไทย-จีน-ลาหู่ ส่วนนามสกุล “ดี คาบาเลส” เพราะคุณปู่มีเชื้อสายฟิลิปปิน สเปน
ต่อมาเมื่อปี 2515 พระองค์ทรงพระราชทาน ต้นชาอัสสัมต้นแรก และให้ชาวบ้านเปลี่ยนมาปลูกชาแทน ซึ่งพระองค์ได้ศึกษาวิธีการปลูกและการถ่ายทอดให้ชาวบ้าน ซึ่งชาวบ้านใช้เวลาถึง 20 ปี ในการเปลี่ยนแปลง และกลายเป็นมีอาชีพที่ยั่งยืน ซึ่ง คุณตา ก็หันมาปลูกชา และได้ติดตามเสด็จไปยังหมู่บ้านอื่นๆ เพื่อแปลภาษาให้ ซึ่งการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ ทำให้ คุณตา ถูกยิงตายจากคนที่เสียประโยชน์ในการเลิกปลูกฝิ่น
ภายหลังจากคุณตาไม่อยู่แล้ว คุณแม่และครอบครัวได้รับเสด็จและทูลพระองค์ว่า คุณตาจาฟะ ไม่อยู่แล้ว พระองค์ตรัสว่า
“ขอแสดงความเ สี ยใจด้วยนะ จาฟะเป็นคนดี เราอยากให้ลูกหลานทุกคนของจาฟะเป็นคนดีเหมือนจาฟะ อย่ า ท อ ด ทิ้ ง ชาวบ้าน ให้ดูแลชาวบ้านต่อไป”
โดยภาพของครอบครัวในขณะที่ทูลเรื่องดังกล่าวให้ในหลวง ร.9 ทรงรับทราบได้ถูกบันทึกภาพไว้ และต่อมาภาพนี้ได้รับเลือกให้อยู่บนธนบัตรที่ระลึกเนื่องในโอกาสพรนะราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ วันที่ 5 ธันวาคม 2554 โดยมีเจ้าหน้าที่แจ้งให้ครอบครัวได้รับทราบเรื่อง ซึ่งถือ
เป็นเกียรติกับวงศ์ตระกูลอย่างที่สุด”
ถือเป้นเกียรติสูงสุดในชีวิตของครอบครัวสาวริชชี่เลยก็ว่าได้ ทั้งนี้ก็ขอเป็นกำลังใจให้สาวริชชี่ และขอให้มีผลงานในวงการบันเทิงให้แฟนๆ ได้ติดตามผลดีๆ อย่างต่อเนื่องด้วยจ้า
ภาพจาก richyoranat
เรียบเรียง ทีมงานเจาะกระแส