กรมอุตุฯเตือนประชาชน 49 จังหวัดเตือนรับมือฝนตกหนัก น้ำท่วมฉับพลัน
ยังคงน่าเป็นห่วง พย ากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า บริเวณความกดอากาศสูงยังคงแผ่ปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือและทะเลจีนใต้ ส่งผลทำให้มีลมตะวันออก และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมประเทศไทยตอนบน ในขณะที่มีลมตะวันออกพัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคใต้ ขอให้ประชาชนบริเวณภาคใต้ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากได้
ลักษณะอากาศทั่วไป
พย ากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า บริเวณความกดอากาศสูงยังคงแผ่ปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือและทะเลจีนใต้ ส่งผลทำให้มีลมตะวันออก และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมประเทศไทยตอนบน ในขณะที่มีลมตะวันออกพัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคใต้ ขอให้ประชาชนบริเวณภาคใต้ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากได้
ฝุ่นละอองขนาดเล็ก ในช่วงของฤดูฝนการสะสมของฝุ่นละออง/หมอกควันมีน้อย พย ากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 17:00 วันนี้ ถึง 17:00 วันพรุ่งนี้.
ภาคเหนือ
- มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60 ของพื้นที่
- ส่วนมากบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง
- พะเยา แพร่ น่าน ตาก สุโขทัย กำแพงเพชร พิจิตร และเพชรบูรณ์
- อุณหภูมิต่ำสุด 21-24 องศาเซลเซียส
- อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส
- ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
- มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20 ของพื้นที่
- ส่วนมากบริเวณจังหวัดเลย ชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี
- อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศาเซลเซียส
- อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส
- ลมตะวันออก ความเร็ว 10-20 กม./ชม.
ภาคกลาง
- มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 ของพื้นที่
- ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท กาญจนบุรี สุพรรณบุรี
- นครปฐม ราชบุรี สมุทรสงคราม และสมุทรสาคร
- อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส
- อุณหภูมิสูงสุด 33-34 องศาเซลเซียส
- ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.
ภาคตะวันออก
- มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 ของพื้นที่
- ส่วนมากบริเวณจังหวัดฉะเชิงเทรา สระแก้ว ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด
- อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส
- อุณหภูมิสูงสุด 33-34 องศาเซลเซียส
- ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
- ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)
- มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
- บริเวณจังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง และสงขลา
- อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-33 องศาเซลเซียส
- ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีขึ้นมา: ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
- ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 1-2 เมตร
- ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป: ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
- ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)
- มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
- บริเวณจังหวัดระนอง พังงา กระบี่ และตรัง
- อุณหภูมิต่ำสุด 21-24 องศาเซลเซียส
- อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส
- ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
- ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร
- กรุงเทพมหานครและปริมณฑล
- มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30 ของพื้นที่
- อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส
- อุณหภูมิสูงสุด 32-33 องศาเซลเซียส
- ลมตะวันออก ความเร็ว 10-20 กม./ชม.
คาดหมาย
ในช่วงวันที่ 2 – 6 พ.ย. 64 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้จะมีกำลังอ่อนลง แต่ยังคงทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนบางแห่ง กับมีอากาศเย็นในตอนเช้า ประกอบกับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือและลมตะวันออกพัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ ทำให้ภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนในวันที่ 7 พ.ย. 64 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นระลอกใหม่จากประเทศจีนจะเริ่มแผ่ลงมาปกคลุม ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนและทะเลจีนใต้ตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวจะมีฝนฟ้าคะนองในระยะแรก หลังจากนั้นอุณหภูมิจะลดลงและมีอากาศเย็น ประกอบกับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้จะเริ่มกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้มีฝนตกหนักบางพื้นที่ สำหรับคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยจะมีคลื่นสูง 1- 2 เมตร ทะเลอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ตลอดช่วง
ข้อควรระวัง
ในช่วงวันที่ 2 – 7 พ.ย. 64 ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนประชาชนบริเวณพื้นที่เสี่ยงภัยในภาคใต้ควรระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก ตลอดช่วง
ขอบคุณข้อมูลจาก : กรมอุตุนิยมวิทย า